วันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2553

Think [ ]

 

ให้ทายว่าหัวข้อของ blog ในวันนี้คือ….

ก. ไก่

ข. เป็ด

ค. แมวน้ำ

และ ง. กลยุทธ์การคิดนอกกรอบ

 

ถูกต้องนะคร้าบบบบบบบบบบบบ (อ้าว ยังไม่ทันตอบ???)

(sfx: เสียงปรบมือ โห่ร้อง)

วันนี้ท่านจะได้รับชม รับฟังเรื่องกลยุทธ์การคิดนอกกรอบ……. (สอนโดย อ.ธงชัย เรียบเรียงโดย จขบ ให้เสียงภาษาไทย โดย พธม)

ก่อนอื่นเลย สิ่งที่เป็นอุปสรรคสูงสุดของการคิดนอกกรอบ ก็คือ “กรอบ” นั่นเอง เพราะฉะนั้น สิ่งที่ท่านจะต้องทำเพื่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ คือ ละทิ้ง “กรอบ” เหล่านั้นซะ! แล้วคำถามต่อมา คือ เอ๊ะ..แล้วอะไรคือ “กรอบ” บ้างล่ะ ง่ายๆเลยครับ ที่เห็นชัดที่สุดตอนนี้ คือ ถ้าคุณอ่านข้อความสามบรรทัดที่แล้ว แล้วเกิดความสงสัยขึ้นมาว่า ทำไมอีคำว่า “กรอบ” มันใช้สีคนละสีกัน(วะ)? นั่นแสดงว่าท่านผู้นั้นติดอยู่ใน “กรอบ” ครับ…. มีใครกำหนดมั้ยครับว่าคำคำเดียวกัน ต้องใช้สีเดียวกัน.. คำตอบคือ ไม่! คุณคิดไปเองทั้งนั้น มันเกิดขึ้นจากความเคยชิน

ความเคยชิน สิ่งที่ปฏิบัติตามๆกันมา หรือแม้กระทั่งความรู้ คอยตี “กรอบ” จำนวนมากให้เรา โดยที่เราไม่รู้ตัว คอยบอกเราว่าอะไรทำได้ ทำไม่ได้ ซึ่งเป็นศัตรูตัวฉกาจกับการก่อกำเนิดความคิดสร้างสรรค์ ขอยกตัวอย่างความเคยชินที่หลายคนคาดไม่ถึง..

image

คีย์บอร์ด QWERTY ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ ออกแบบมาเพื่อทำให้เราพิมพ์ช้าลง…?????? คาดไม่ถึงสินะครับ สำหรับเหตุผล คงต้องย้อนไปในยุคที่แป้นพิมพ์ดีดรุ่งเรือง ถ้าคนเราพิมพ์ดีดเร็วเกินไป ก้านพิมพ์จะเกิดการ jam ฉะนั้น คนออกแบบเครื่องพิมพ์ดีด จึงต้องจัดตำแหน่งตัวอักษรเพื่อให้เราพิมพ์ช้าลง เมื่อเวลาผ่านล่วงเลยไปถึงยุคคอมพิวเตอร์ คีย์บอร์ดก็ถูกสร้างขึ้นมาโดยเอาแบบมาจากแป้นพิมพ์ดีด เพราะว่าคนคุ้นเคยกับการพิมพ์แบบนั้น จึงเกิดเป็นคีย์บอรฺ์ด QWERTY ขึ้นมา ถึงแม้ว่าจะมีคนพยายามปรับปรุงคีย์บอร์ดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการพิมพ์ แต่กลับไม่เป็นที่นิยม เพราะคนทั่วไป “เคย ชิน” กับการใช้คีย์บอร์ดที่ช่วยลดความเร็วในการพิมพ์ของเราซะแล้ว

หมายเหตุ: คีย์บอร์ดที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้เราพิมพ์ได้รวดเร็วขึ้น ได้แก่ คีย์บอร์ด DVORAK: http://www.dvorak-keyboard.com/

image

ดังนั้น ถ้าต้องการคิดนอกกรอบ ขั้นแรกจึงควรละทิ้ง “กรอบ” หรือเรียกอีกอย่างนึงว่า “การละทิ้งสมมติฐาน (Drop an Assumption)”  สามารถทำได้โดยวิธีการง่ายๆ ได้แก่ ดูว่ากรอบมีอะไรบ้าง และมีข้อไหนบ้างที่เราสามารถละเลยได้ ขอยกตัวอย่างง่ายๆดังนี้

image

 ปัญหา: จะลากเส้นตรงอย่างน้อยสี่เส้นอย่างไร ให้ผ่านจุดครบทั้งเก้าจุด โดยไม่ยกปากกา?

หลายคนอาจจะเคยเห็น และรู้คำตอบอยู่แล้ว แต่บอกไว้เลยนะครับว่าคำตอบของปัญหานี้มีอย่างน้อยห้าคำตอบ ให้เวลาทุกท่านคิดซักแปปนึงละกันนะครับ อย่าลืมว่า กฎเหล็กของเราคือ “จงละทิ้งกรอบทั้งหมดที่สามารถทิ้งได้”..

 

 

 

 

 

 

 

 

อย่าพึ่งรีบดูคำตอบนะครับ ลองคิดดูก่อน..

imageวิธีที่ 1 วิธีนี้เป็นวิธีพื้นฐานที่สุด ส่วนมากตามหนังสือ หรือเว็ปไซต์ทั่วไปจะเฉลยด้วยวิธีนี้ เป็นละทิ้งกรอบที่เล็กที่สุด นั่นคือ คนส่วนมากมักตีกรอบให้ตัวเองว่า เส้นที่เราลากจะต้องอยู่ภายในกรอบของจุดทั้งเก้าจุด ซึ่งไม่จำเป็นเลย! ถ้าเราสามารถทิ้งกรอบนี้ได้ เราก็จะสามารถค้นพบคำตอบนี้ได้ไม่ยากนัก

 

วิธีที่ 2 เกิดจากการละทิ้งกรอบที่ว่า เราจำเป็นต้องลากผ่านกึ่งกลางของจุด ซึ่งก็ไม่จำเป็นอีกเช่นกัน! ดังนั้น วิธีนี้ก็สามารถเป็นไปได้เช่นกัน  

image

 

image วิธีที่ 3 ปากกาที่ใช้จำเป็นต้องมีขนาดปกติ? ไม่จำเป็นเลยครับ! สิ่งเหล่านี้แหละเป็นกรอบที่เราสร้างขึ้นมาเอง ถ้าเราใช้ปากกาที่หัวใหญ่มากๆ แค่เพียงเส้นเดียวก็สามารถลากทับจุดได้ครบทั้ง 9 จุดแล้ว

 

วิธีที่ 4 แค่เพียงเราขยายมุมมองออกไปอีก เราจะพบว่ามีกรอบอีกมากมายที่ขวางกั้นความคิดเราอยู่ ลองคิดดูดีๆว่ามีใครบอกคุณมั้ยว่า ห้ามพับกระดาษ ไม่มีครับ ไม่มีกติกาที่บอกว่า ห้ามพับกระดาษ มีคนเสนอวิธีพับกระดาษที่ทำให้เราสามารถลากผ่านจุดทั้งเก้าโดยใช้เพียงเส้นเดียว!

image

วิธีที่ 5 ท้าทายความเป็นไปได้ อย่าให้ความรู้สึกตีกรอบว่าอันนี้ทำได้ อันนี้ทำไม่ได้ อย่างเช่นวิธีนี้ เราไม่จำเป็นต้องลากอยู่บนกระดาษเท่านั้น วิธีที่สามารถทำได้ ได้แก่

 

image

image  

 

 

 

 

 

 

วิธีที่ >5

ถึงตาของคุณแล้วล่ะครับ ลองคิดหาวิธีใหม่ๆที่ไม่ซ้ำกับวิธีที่ผ่านมา หวังว่าตัวอย่างที่ผ่านๆมาจะทำให้คุณเข้าใจถึง หลักการละทิ้งสมมติฐาน มากขึ้น อย่าลืมว่า กฎคือ จงท้าทายทุกกฎเท่าที่จะทำได้!

(ยังไม่จบ ติดตามชมตอนต่อไป…)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น